1. ตำแหน่งไฟ ไม่ควรส่องตรงตำแหน่งเตียงนอนจุดติดตั้งแสงไฟ หากจัดตำแหน่งปรับมุมองศาไฟไม่ลงตัว ห้องที่คิดว่าจะอยู่สบายที่สุดกลับทำให้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในห้องทั่วไป มักจะออกแบบไฟหลักไว้ในตำแหน่งที่ตรงกับเตียง ซึ่งจะทำให้องศาของแสงไฟส่องลงมาตรง ๆ บริเวณที่นอน ผู้อยู่อาศัย จะรู้สึกแสบตา จึงควรวางตำแหน่งติดตั้งไฟ เอาไว้ในจุดอื่นที่ไม่กระทบสายตา เช่น บริเวณด้านข้างของเตียง หรือบริเวณบนหัวนอนข้างเตียง 2 ด้าน
2. ซ่อนหลอดไฟบนฝ้าเพดานเทคนิคการจัดตกแต่ง ไฟในห้องนอน แบบ Indirect Lighting หรือไฟซ่อน ไฟหลืบ แบบที่ใช้ในหลุมฝ้าเพดาน หลังเตียง เริ่มที่เป็นที่นิยมในบ้านเรือนทั่วไปกันมากขึ้น เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างบริเวณส่วนกลางของห้องได้ดี ห้องดูกว้างขึ้นมีมิติน่าสนใจ โดยที่คุณภาพแสงไม่ทำลายสุขภาพตา เพราะเป็นแสงที่เกิดจากการสะท้อนแสงจากหลอดไฟ ส่องกระทบไปบนพื้นที่ระนาบให้ต้องการมีการส่องสว่าง จึงสามารถกระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอ แต่หากยังรู้สึกว่าแสงจ้าเกินไป ให้ใส่อะคลีลิคครอบปิดตัวหลอดไฟไว้อีกชั้นหนึ่ง จะได้แสงที่ soft ขึ้น 3. ไฟส่องเฉพาะจุดภายในช่องเก็บของ ชั้นวางของ หรือจุดสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้แสงสว่างเป็นครั้งคราว แทนที่จะเปิดไฟทั้งห้อง ให้เลือกเปิดเฉพาะจุด อย่างเทคนิคการใช้ไฟส่องเฉพาะจุด นิยมใช้หลอด LED ซ่อนไว้ในจุดดังกล่าว ซึ่งจะได้แสงสว่างแบบนวลตา และจะไม่ส่งผลกระทบกับคนข้าง ๆ ที่นอนร่วมกันด้วย 4. ไฟหลังทีวี ยิ่งมี ยิ่งถนอมดวงตาห้องนอนหลาย ๆ ห้อง มักติดตั้งทีวีไว้บริเวณปลายเตียง เพื่อจะได้นอนดูสบาย ๆ และส่วนใหญ่ขณะดูทีวี มักจะปิดไฟในห้อง ทำให้สายตา โฟกัสไปยังจอทีวีเพียงที่เดียว ซึ่งแสงสว่างจากหน้าจอที่สว่างจ้า ในขณะที่ภายในห้องมืด เป็นต้นเหตุให้สายตาเสียอย่างไม่รู้ตัว แนะนำให้ติดตั้ง LED TV Backlight ไว้หลังทีวี จะช่วยลดความเปรียบต่างระหว่างความมืด และสว่างได้ดี ช่วยให้การดูทีวีผ่อนคลายสบายตายิ่งขึ้น
5. ติดไฟเซนเซอร์ ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติใต้ขอบเตี
|