1. พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถ - การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอถือเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่เลยก็ว่าได้ ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6-7 ชั่วโมงก่อนขับรถ จะช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นทั้งวัน
2. มีเพื่อนชวนคุยตลอดทาง - การพูดคุยกับผู้ขับขี่จะช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลา และยังช่วยลดความตึงเครียดจากการจราจรอีกด้วย หรืออย่างน้อยผู้โดยสารควรหมั่นเฝ้าระวังผู้ขับขี่ หากเริ่มมีอาการหาว อ่อนเพลีย ก็ควรเตือนเพื่อเรียกสมาธิกลับมา
3. ดื่มน้ำบ่อยๆ - การขับขี่ระยะทางไกล ผู้ขับขี่มักละเลยการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้ร่างกายรู้สึกเพลียล้าโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรหมั่นจิบน้ำบ่อยๆ ช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย เพิ่มความสดชื่น อีกทั้งการแวะพักเข้าห้องน้ำเป็นระยะก็ถือเป็นการพักคน-พักรถไปในตัว
4. ดื่มกาแฟหรือชา - สารคาเฟอีนในกาแฟหรือชาจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ยิ่งใครที่ติดกาแฟต้องดื่มเป็นประจำทุกวันแล้วล่ะก็ ไม่ควรเว้นกาแฟขณะขับรถ เพราะการขาดคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าคนทั่วไป
5. เปิดกระจกรับอากาศ - เนื่องจากระบบปรับอากาศในรถเป็นระบบปิด การนั่งบนรถต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ผู้ขับขี่จะได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) มากกว่าปกติ ขาดออกซิเจน ทำให้เกิดอาการง่วงซึม ดังนั้นหากเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย ให้ลดกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท หรือกดปุ่มปิดระบบหมุนเวียนอากาศชั่วครู่เพื่อดึงออกซิเจนเข้ามา จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี หากทำตามข้อแนะนำเหล่านี้แต่ยังมีอาการง่วงซึมจนทนไม่ไหว แนะนำให้จอดแวะปั๊มน้ำมันหรือที่ที่ปลอดภัย เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า จิบเครื่องดื่มเย็นๆ หรือจะนอนงีบสัก 15-20 นาที ก็จะช่วยให้ร่างกายกลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่าเหมือนเดิมแล้วล่ะครับ |