เมื่อวันที่ 22/05/2566 ที่ผ่านมากรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการประกาศให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนฤดูกาลจากหน้าร้อนเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการ เราในฐานะของใช้รถใช้ถนนคงจะหลีกหนีปัญหาฝนตกแล้วทัศนวิสัยไม่ดี น้ำท่วม รวมไปถึงถนนลื่นมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับตอนถนนแห้ง ซึ่งเราจะเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือพอฝนตกทีไรมักจะเจอปัญหารถติดเนื่องจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นด้านหน้าเราพอเราได้ขับผ่านตรงนั้นก็มักจะมีความคิดแว้บเข้ามาในหัวทันที่อย่าให้อุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้นกับเราเลยในเมื่อเราจำเป็นที่ต้องใช้รถใช้ถนนในหน้าฝนก็ลองดูวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราปลอดภัยในหน้าฝนนี้กัน
ขั้นตอนเตรียมรถ ให้พร้อมขับขี่ตอนฝนตกหนักอย่างปลอดภัย
1. สิ่งที่จำเป็นในตอนขับรถในหน้าฝนเลย ก็คือ ไฟหน้ารถยนต์ ไฟเบรกและใบปัดน้ำฝน เพราะขณะที่ฝนตกจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ลดลง จึงจำเป็นต้องเปิดไฟส่องสว่างช่วยให้รถคันอื่นๆ สามารถมองเห็นเราได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนที่ เสื่อมสภาพหรือปัดไม่สะอาดพร้อมทั้งหมั่นเติมน้ำยาที่ปัดน้ำฝนในถังเก็บน้ำปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. การขับขี่รถในช่วงฝนตก ผู้ขับขี่คงทราบกันดีว่าถนนมักจะลื่นไถลได้ง่ายมาก ดังนั้นเราควรตรวจสอบความลึกของร่องดอกยางให้แน่ใจก่อน ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ โดยปกติแล้วยางควรมีความลึกของร่องดอกยางไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ซึ่งสามารถวัดได้โดยใช้เกจวัดความลึกของร่องดอกยางสอดเข้าไปในแต่ละร่อง หากความลึกของร่องดอกยางต่ำกว่า 1.6 มม. ก็ถึงเวลาที่จะต้องซื้อยางชุดใหม่ข้อนี้เป็นข้อที่นับว่าสำคัญที่สุดเลยเพราะยางรถยนต์คือสิ่งที่สัมผัสเพียงอย่างเดียวหากยางเราไม่ดีก็มีโอกาสที่รถเราจะลื่นไถลได้ง่ายนั่นเอง
3. สิ่งสำคัญเลยควรเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถของคุณ ซึ่งสามารถดูค่าแรงดันลมยางที่เหมาะสมได้ที่สติกเกอร์ลมยางข้างประตูฝั่งคนขับหรือจากสมุดคู่มือรถของคุณ โดยผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพยางและแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งในช่วงที่ล้อเย็นสู่สภาพปกติแล้ว ก่อนตรวจยาง ควรจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
4. ติดตั้งผลิตภัณฑ์กันสาดรถที่หน้าต่างหรือกระจกรถ เป็นส่วนที่จะสามารถช่วยดักและระบายน้ำฝน ไม่เกาะผิวกระจกทำให้มองเห็นสภาพภายนอกรถได้ดีขึ้นและอย่าลืมทำความสะอาดกระจกหน้าต่างภายในรถสัปดาห์ละครั้ง
|