เราทุกคนคงเคยมีประสบการณ์ และสงสัยว่าเราทำอะไรผิดกับกล้วยหรือเปล่า ความจริงก็คือ การเก็บอาหารอย่างเหมาะสมมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสดและรสชาติของกล้วย ในบทความนี้ เราจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำอันมีค่าเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรวางไว้ข้างกล้วย เพื่อช่วยให้คุณรักษากล้วยไว้ให้ดีที่สุด และนี่คืออาหารที่ไม่ควรวางใกล้กล้วย
อาหารที่ไม่ควรวางใกล้กล้วย
เริ่มต้นกันที่ผลไม้รสเปรี้ยว หลายคนอาจคิดว่าผลไม้เหล่านี้เป็นคู่หูที่ดีต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าผลไม้รสเปรี้ยวปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมา ซึ่งก๊าซชนิดนี้เร่งการสุกของกล้วย การวางส้มหรือเลมอนไว้ใกล้กล้วยจะทำให้กล้วยเหลืองเร็วและสุกงอมเกินไปก่อนที่คุณจะรู้ตัว
อาหารอีกประเภทหนึ่งที่ควรเก็บแยกจากกล้วยคือผักผลไม้ที่ไวต่อความชื้น กล้วยปล่อยความชื้นซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผักใบเขียว และอาหารอื่นๆ ที่มีแนวโน้มที่จะเน่าเสียในสภาพแวดล้อมที่ชื้น การเก็บกล้วยให้ห่างจากผักผลไม้ที่ไวต่อความชื้น จะช่วยรักษาคุณภาพและรักษาความสดของผักใบเขียวของคุณ
แอปเปิ้ลพร้อมกับผลไม้ที่ผลิตเอทิลีนอื่นๆ เช่น ลูกแพร์และลูกพีชก็สามารถให้ผลเช่นเดียวกันกับกล้วยได้เช่นกัน ก๊าซเอทิลีนที่ถูกปล่อยออกมาจากผลไม้เหล่านี้อาจทำให้กล้วยสุกเร็วกว่าที่ต้องการได้ การวางแอปเปิ้ลหรือผลไม้ที่ผลิตเอทิลีนอื่นๆ ใกล้กับกล้วยอาจส่งผลให้สีเหลืองเร็วขึ้นและอายุการเก็บรักษาสั้นลง การทำความเข้าใจบทบาทของก๊าซเอทิลีนในการสุกของผลไม้เป็นสิ่งสำคัญ การแยกกล้วยออกจากแอปเปิ้ลและผลไม้ที่ปล่อยเอทิลีนอื่นๆ จะช่วยชะลอกระบวนการสุกและยืดอายุความสดของกล้วยได้ แนวทางปฏิบัติง่ายๆ นี้จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับกล้วยเมื่อสุกเต็มที่และป้องกันไม่ให้กล้วยสุกเร็วเกินไป
วิธียืดอายุการเก็บรักษากล้วย
เพื่อยืดอายุการเก็บกล้วยของคุณ มีวิธีที่ได้ผลจริง 2-3 วิธีที่คุณสามารถใช้ได้
1.แยกและห่อ หากคุณมีกล้วยหลายหวี ให้แยกออกจากกันและพันก้านกล้วยแต่ละลูกด้วยแรปพลาสติกหรืออลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งจะช่วยชะลอการปล่อยก๊าซเอทิลีนและยืดอายุความสดใหม่
2.ใช้ไม้แขวนกล้วย กล้วยที่แขวนไว้สามารถป้องกันไม่ให้ช้ำและถูกบีบ ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น และป้องกันการสุกก่อนวัย
3.แช่เย็นเมื่อสุก หากคุณมีกล้วยสุกที่คุณไม่ได้วางแผนจะบริโภคทันที ให้นำไปแช่ในตู้เย็น วิธีนี้จะทำให้กระบวนการสุกช้าลงและทำให้คุณได้กล้วยที่เนื้อแน่นและอร่อยไปอีก 2-3 วัน |