บทสรุปแนวทางรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. เผยแพร่ "คำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 เรื่องให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า" ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle - BEV) โดยไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถยนต์สันดาป
 
 
สาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวเป็นการแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่จากตัวรถ โดยกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายถึงขนาดต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งชุด บริษัทประกันจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของแบตเตอรี่ตามปีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นๆ เริ่มนับจากวันที่มอบรถยนต์จากผู้จำหน่ายรถยนต์ หรือวันที่ตามเอกสารประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายรถยนต์ แล้วแต่วันใดเกิดขึ้นก่อน
 
 
 
อัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน
 
ไม่เกิน 1 ปี ชดใช้ 100%
เกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี ชดใช้ 90%
เกินกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ชดใช้ 80%
เกินกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี ชดใช้ 70%
เกินกว่า 4 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี ชดใช้ 60%
เกินกว่า 5 ปี ขึ้นไป ชดใช้ 50%
 
 
ซื้อประกันคุ้มครองแบตเตอรี่และเครื่องชาร์จเพิ่มเติมได้
 
กรณีผู้เอาประกันภัยต้องการความคุ้มครองแบตเตอรี่เพิ่มเติม คปภ. ได้เพิ่มเอกสารแนบท้ายความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรับความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ตามความสมัครใจ ทั้งการรับประกันแบตเตอรี่ 100% ภายหลังจากใช้งานครบ 1 ปี และการรับประกันความเสียหายต่อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ได้
 
 
ประกันภัยรถ EV ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่เท่านั้น
 
เกณฑ์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) แบบใหม่ กำหนดให้การใช้งานที่เป็นลักษณะส่วนบุคคล บริษัทประกันภัยจะต้องรับประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่เท่านั้น โดยการคำนวณเบี้ยประกัน บริษัทจะต้องนำพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ที่ถูกระบุชื่อแต่ละรายมาเป็นปัจจัยในการคำนวณเบี้ยประกันร่วมด้วย โดยจะพิจารณาจากประวัติการประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทว่ามีการเกิดเหตุจากการใช้รถยนต์โดยประมาทของผู้ขับขี่หรือไม่
 
 
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันสามารถแจ้งระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คน โดยจะระบุลงในตารางกรมธรรม์สูงสุดไม่เกิน 2 คน แต่กรณีระบุผู้ขับขี่เกิน 2 คน จะระบุชื่อผู้ขับขี่ทั้งหมดไว้ในเอกสารแนบท้ายแทน
 
คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป หากบริษัทประกันภัยไม่สามารถออกกรมธรรม์ตามคำสั่งฉบับใหม่ได้ สามารถยึดเกณฑ์เดิมได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2567

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่