4 อาหารไทยที่หากินได้เฉพาะหน้าหนาว

หนาวนี้กินอะไรดี นอกจากของอุ่นๆ คลายหนาว ก็อยากให้ทุกคนได้กินของดีประจำฤดู เพราะหนึ่งปีจะมีให้กินสักครั้ง หรือบางอย่างมีให้กินตลอดทั้งปี แต่จะอร่อยสุดๆ ก็เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น
 
เป็นการกินอย่างคนโบร่ำโบราณที่หาอยู่หากินง่ายๆ กินตามธรรมชาติจัดสรรให้ ฤดูไหนมีอะไรก็กินอย่างนั้น เรียกง่ายๆ ว่า ‘กินตามฤดูกาล’ ความดีงามของการกินตามฤดูกาลคือรสอร่อยขั้นสุด เพราะพืชผักและสัตว์เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ลดปัจจัยเสี่ยงสารปนเปื้อนอย่างยาเร่งผลเร่งดอกเพื่อให้ออกผลนอกฤดูกาล แล้วยังราคาถูกอีกด้วย ก่อนลมหนาวจะพัดผ่าน เพื่อไม่ให้พลาดของอร่อย จึงขอนำเสนอ 8 ของดีที่ธรรมชาติมอบให้เราในฤดูหนาวนี้
 
 
1. ข้าวใหม่ (นาปี)
 
‘ข้าวใหม่’ ไม่ใช่พันธุ์ข้าว แต่คือข้าวที่ชาวนาเพิ่งจะเก็บเกี่ยวนำไปสี ช่วงต้นฤดูหนาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวใหม่นาปี (ข้าวที่ปลูกและเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล) ไม่เพียงกลิ่นหอมยวนใจ เมล็ดข้าวยังนุ่ม มียางหนืด มีความชื้นมากกว่าข้าวนาปรัง (ข้าวที่ปลูกนอกฤดู) จึงนิยมหุงเป็นข้าวต้ม โจ๊ก ยางข้าวหนืดๆ ทำให้สัมผัสละมุนและส่งกลิ่นหอมฉุย
 
 
ยิ่งถ้ารู้เทคนิคหุงข้าวสวยด้วยข้าวใหม่จะยิ่งได้ข้าวสวยนุ่ม หอมฟุ้ง อร่อยจนคุณอาจติดใจข้าวสวยจากข้าวใหม่ เพราะแค่ข้าวอร่อยกินกับอะไรก็อร่อย… จำง่ายๆ ว่า หุงข้าวใหม่ ใส่น้ำแต่น้อย หมั่นสังเกตว่าปริมาณน้ำเท่าไรจึงจะเหมาะกับข้าวใหม่ล็อตที่คุณได้มา ที่สำคัญควรรู้ไว้ว่าธรรมชาติของข้าวใหม่นั้นไม่ขึ้นหม้อ
 
 
 
 
 
2. กุ้งแม่น้ำ
 
กุ้งแม่น้ำมีให้กินตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะกินให้อร่อยอย่างคนโบราณเขาว่าไว้ ต้องไม่พลาดกุ้งแม่น้ำช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่กุ้งได้รับสารอาหารตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ เอาไปเผาไฟ มันกุ้งเยิ้มๆ หอม มัน เนื้อหวานแน่นเด้ง หรือทำต้มยำกุ้งน้ำข้นตามสูตรต้นตำรับที่ไม่ต้องพึ่งนมข้นจืด ก็ได้น้ำต้มยำรสหวานมันกลมกล่อมจากมันกุ้งธรรมชาติ
 
 
 
 
3.ดอกแค
 
‘แค’ คือผักที่ห่วงใยคุณ ด้วยสรรพคุณที่ผู้ใหญ่บอกต่อๆ กันมาว่า ถึงช่วงผลัดฤดูระหว่างปลายฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ให้กินแกงส้มดอกแคดักไข้หัวลม (ไข้ที่เกิดขึ้นในช่วงผลัดเปลี่ยนฤดู) เอาไว้ และเป็นช่วงที่ต้นแคทยอยออกดอกอ่อน ดอกแคมีวิตามินซีเยอะ เมื่อรวมพลังกับเครื่องแกงส้มที่อุดมด้วยสมุนไพรหอมระเหยอย่างหัวหอม กระเทียม ฯลฯ จึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านไข้หวัด อีกทั้งดอกแคอ่อนมีรสหวานติดขมนิดๆ จึงเข้ารสได้ดีกับแกงส้ม อย่างแกงส้มดอกแคใส่กุ้ง แต่ที่นิยมเห็นจะเป็นแกงส้มใส่ปลาช่อน เพราะเป็นช่วงปลาช่อนจำศีล สะสมไขมันไว้เยอะ
 
 
 
 
 
4.สะเดา
 
เป็นผักพื้นบ้านที่หากินได้เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว เพราะต้นสะเดาได้ฤกษ์แตกช่อดอกทุกสิ้นปี คือช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ หาซื้อได้ตามตลาดสดทั่วไป สะเดามีรสชาติขมติดมันนิดๆ ใครเคยกินสะเดาสดครั้งแรกคงรู้ซึ้งถึงคำว่าขมติดลิ้น แต่ก็เป็นผักมากประโยชน์ ช่วยป้องกันไข้หัวลมได้เช่นเดียวกับดอกแคคนโบราณจึงจับรสขมของสะเดาให้กินเข้าคู่กับรสหวานของน้ำปลาหวาน แนมปลาย่างหรือกุ้งลวก กุ้งเผา กินด้วยกันได้รสกลมกล่อมลงตัว บางคนติดใจรสชาติสะเดาน้ำปลาหวาน แต่ก็ยังอยากลดระดับความขมลงอีกนิด จึงนำไปลวกก่อนสัก 1-2 ครั้ง ‘สะเดาน้ำปลาหวาน’ จึงกลายเป็นตำรับที่กินกันมานานจนถึงปัจจุบัน

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่