เชื้อราในปากเด็กสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าพ่อแม่สังเกตเห็นฝ้าสีขาวที่ลิ้นของลูก ให้เดาไปก่อนว่านั่นอาจเป็นเชื้อราในปากเด็ก หรือบางคนอาจจะคิดว่าเป็นฝ้าที่เกิดจากน้ำนมที่ลูกกินเข้าไป แต่หากมีลักษณะเหมือนเชื้อราที่ลิ้น บวกกับลูกมีอาการเจ็บ ร้องไห้ งอแง และไม่ยอมดูดนม นั่นอาจเป็นไปได้ว่าลูกกำลังเผชิญกับเชื้อราในปาก โดยวันนี้เราจะชวนให้มารู้วิธีการรักษาที่ถูกต้องและพ่อแม่ควรให้ความสำคัญอย่างมากกันค่ะ
 
 
เชื้อราในปากเด็กคืออะไร
 
เชื้อราในปากเด็ก หรือที่เราเรียกอีกชื่อ Oral Thrush เป็นอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก โดยเชื้อราที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวนี้มีชื่อว่า Candida Albicans ในส่วนของเชื้อราในปากมักจะเกิดในเด็กทารกที่มีอายุประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด และมีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้อยู่หลากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน
 
 
สาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในปากเด็ก
 
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในปากเด็กนั้น โดยส่วนใหญ่เกิดจากการที่ร่างกายของเด็กมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง หรืออาจเกิดจากการที่เด็กใช้ยาบางชนิด รวมถึงการติดเชื้อจากคุณแม่หลังคลอดก็มีส่วนทำให้เกิดเชื้อราในช่องปากได้เช่นกัน บางรายโดยเฉพาะในเด็กโตมักได้รับเชื้อราจากการหยิบของสกปรกเข้าปาก
 
 
วิธีการรักษาเชื้อราในปากเด็ก
 
ในส่วนของวิธีการรักษาเชื้อในปากเด็กนั้น จะมีวิธีการรักษาที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ในกรณีที่เป็นเพียงน้อยนิด เชื้อราจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือหากคุณแม่จะใช้วิธีการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น จากนั้นเอามาเช็ดลิ้นเหมือนเช็ดคราบน้ำนมก็ได้เช่นกัน แต่ห้ามเช็ดถูด้วยความรุนแรง แนะนำให้พ่อแม่พยายามทำอย่างเบามือ จะช่วยให้ฝ้าขาวๆ ค่อยๆ หายไป แต่หากเป็นฝ้าขาวหนามาก และอาการเริ่มกระจายไปทั่วช่องปาก แนะนำให้พ่อแม่รีบนำลูกส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการวินิจฉัยและรักษาอาการดังกล่าวต่อไป
 
แน่นอนว่าเชื้อราในปากเด็กจะดูเหมือนเป็นอาการที่ไม่ค่อยรุนแรงต่อเด็กมากมายนัก แต่หากพ่อแม่ปล่อยไปโดยไม่รักษาทันที เมื่อนานวันก็จะทำให้เป็นฝ้าขาวหนาๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เด็กมีอาการปวดในช่องปากอย่างหนัก ตลอดจนทำให้เด็กไม่สามารถกินนมหรือกินอาหารได้เหมือนปกติ ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายของเด็กตามมาได้ โดยเฉพาะภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นภาวะที่พ่อแม่แทบไม่อยากให้ลูกต้องเผชิญเลย

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่