สำหรับใครที่กำลังมองหาภูเขาสวยๆ ในไทยเพื่อที่จะไปเที่ยว หรือพักผ่อน ต้องห้ามพลาดกับ 8 ภูเขาที่สวยที่สุดในประเทศไทยที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ เพราะนอกจากจะเป็นภูเขาที่สวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกมากมาย และสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงให้แวะอีกหลากหลายแห่ง โดย 8 ภูเขาที่ได้นำมาฝากนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถือว่าเป็นภูเขาสวยๆ ในไทยที่ทุกคนต้องห้ามพลาด โดยมีความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 400-1,000 เมตร และปกคลุมไปด้วยป่าดิบชื้น ทำให้เป็นแหล่งธรรมชาติที่ร่มรื่น มีความชุ่มชื้น และเย็นสบาย ซึ่งกิจกรรมที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ได้แก่ การไปเดินป่าดูสัตว์ในตอนกลางวัน หรือนั่งรถเจ้าหน้าที่ชมสัตว์ในยามกลางคืน รวมถึงท่องเที่ยวน้ำตก หรือไปกางเต็นท์ อีกทั้งยังมีจุดชมวิวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ให้เห็นธรรมชาติได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิวหน้าผา น้ำพุ หรือน้ำตก และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
น้ำตกผากล้วยไม้ เป็นผาน้ำตกที่ไม่สูงมาก อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และเต็มไปด้วยกล้วยไม้
จุดชมวิวผาเดียวดาย เป็นจุดที่มีนกหายากให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เช่น นกเงือก และนกแซงแซวหางบ่วง
หอดูสัตว์ เป็นจุดที่สามารถขึ้นไปดูสัตว์กินพืชออกมาหาอาหาร อย่างเช่น กวาง กระทิง หรือช้างป่า เป็นต้น
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละช่วงฤดูจะมีเสน่ห์แตกต่างกัน ซึ่งในหน้าร้อนนั้นป่าในเขาใหญ่จะแล้ง และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองให้อารมณ์ฤดูใบไม้ร่วง และเหมาะกับการส่องสัตว์ป่า และในหน้าฝนนั้นป่าเขาจะกลับมาเขียวฉอุ่ม และแหล่งน้ำจะกลับมาชุ่มชื้น เหมาะแก่การเที่ยวน้ำตก และในหน้าหนาวนั้นอากาศตอนเช้าจะเย็น เหมาะแก่การกางเต็นท์ และรับลมหมอกเป็นอย่างมาก
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กินพื้นที่ถึง 11 อำเภอใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี
ข้อมูลติดต่อ: สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟสบุ๊คอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือ โทรเบอร์ 086 092 6529
เวลาเปิดบริการ: เวลาทำการ: 6:00 น. – 18:00 น.
ค่าบริการเข้าชม: สำหรับนักท่องเที่ยวไทยเสียค่าบริการในอัตรา ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาทโดยที่ผู้สูงอายุหรือผู้พิการจะไม่เสียค่าบริการ และสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเสียค่าบริการในอัตรา ผู้ใหญ่ 200 (รวมถึงผู้สูงอายุ และคนพิการ) และเด็ก 100
ค่าบริการยานพาหนะ: ค่าบริการในการนำยานพาหนะเข้าจะอยู่ในอัตราต่อไปนี้ รถจักรยานยนต์ คันละ 20 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาท รถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาท และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อแต่ไม่เกิน 10 ล้อ คันละ 200 บาท
2. อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เป็นภูเขาสวยๆ ในไทยที่อุดมไปด้วยป่าอันสมบูรณ์ และเป็นภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,685 เมตร แถมยังเป็นแหล่งกำเนิดของลำธารต่างๆ อีกมากมาย โดยนักท่องเที่ยวนั้นจะนิยมไปชมนก เที่ยวน้ำตก เยี่ยมหมู่บ้านชาวเขา เข้าดูพืชผลในสถานีวิจัยเกษตร รับชมแหล่งโบราณสถานสันกู่ และพักผ่อนกางเต็นท์ ซึ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่นๆ ให้แวะชมอีกมากมาย เช่น
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ เป็นแหล่งสักการะบูชาสำคัญของชาวเชียงใหม่
ศูนย์ธรรมชาติวิทยาดอยสุเทพเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นศูนย์จัดแสดงความรู้ทั้งด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ นิเวศวิทยา และชุมชน
น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่มีมากถึง 10 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี และเดินทางไปได้สะดวก
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
ถ้าหากต้องการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาตดอยสุเทพ-ปุยนั้นจะต้องไปในช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศเย็น โดยอากาศจะแห้ง และอุณหภูมิต่ำที่สุดในปี และควรหลีกเลี่ยงหน้าฝน เพราะเชียงใหม่จะได้รับลมมรสุมโดยตรง ทำให้ฝนตกหนักกว่าปกติ
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ริม อำเภอหางดง และอำเภอเมืองของจังหวัดเชียงใหม่
ข้อมูลติดต่อ: สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0 5329 5041 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ 0 5321 0244 ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.
เวลาเปิดบริการ: เปิดทำการ 8.00 – 17.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์
ค่าบริการเข้าชม: ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ของคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และของชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
3. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เป็นภูเขาสวยๆ ในไทยที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีธรรมชาติงดงาม และมีพื้นที่ราบสลับกับเนินเขาเตี้ยๆ รวมไปถึงภูเขาสูงชัน โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 400-1,700 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสกับวิวทะเลหมอก รอดูพระอาทิตย์ขึ้น และรอชมดอกไม้สวยงาม ทั้งดอกนางพญาเสือโคร่ง และดอกเสี้ยว
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
สำหรับผู้ที่ต้องการมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เพื่อมาดูดอกไม้บานนั้นจะต้องมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะว่าทั้งดอกนางพญาเสือโคร่ง และดอกเสี้ยวจะบานออกมาพร้อมกัน หรือถ้าหากสะดวกมาในช่วงเดือนอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
ข้อมูลติดต่อ: สามารถติดต่อได้ที่เพจเฟสบุ๊คอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า หรือ เบอร์โทร 084 807 9848
เวลาเปิดบริการ: เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 – 16.00 น. ของทุกวัน
ค่าบริการเข้าชม: ไม่มีค่าบริการ แต่ถ้าหากต้องการกางเต็นท์จะเสียค่าพื้นที่หลังละ 30 บาท
4. เขาขนาบน้ำ
เขาขนาบน้ำ เป็นภูเขาสวยๆ ในไทยที่เป็นหินปูน 2 ลูก มีความสูงราวๆ 100 เมตร ตั้งอยู่ขนาบลำแม่น้ำเพียงลำพัง โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมนั่งเรือหัวโทง เพื่อสำรวจถ้ำ และดูหินงอกหินย้อย หรือพายเรือแคนูชมป่าชายเลน สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องวัฒนธรรมการใช้ชีวิตก็มีการเที่ยวสัมผัสชุมชนชาวเกาะกลางที่สามารถแวะไปที่ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้าน เพื่อชมการจัดแสดงเครื่องใช้สมัยโบราณ เรียนรู้การประดิษฐ์เรือหัวโทงจำลอง ชมการทอผ้าฝ้าย ชมกระชังปลาต่างๆ และเดินชมหอพิพิธภัณฑ์
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
สำหรับผู้ที่อยากไปท่องเที่ยวที่เขาขนาบน้ำนั้นสามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่ว่าในช่วงหน้าฝนอาจจะออกเรือยากขึ้น เพราะต้องดูสภาพอากาศร่วมด้วย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
เวลาเปิดบริการ: สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน และทุกวัน
ค่าบริการเข้าชม: สามารถเดินทางไปด้วยเรือ ผ่านการเช่าเรือจากท่าเรือเทศบาลในบริเวณเขาขนาบน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที และมีค่าเช่าเรือลำละ 300 บาท
5. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นภูเขาที่สวย และสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีความสูงมากถึง 2,599 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมไปเที่ยวเพื่อดูดอกไม้ ชื่นชมเส้นทางธรรมชาติที่มีหลากหลาย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สามารถเข้าไปแวะชมได้อีกหลากหลายแห่ง เช่น
พระมหาธาตุนภเมทนีดล เป็นแหล่งสักการะสำคัญบนดอยอินทนนท์
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถแวะไปรับชมดอกไม้ได้
ถ้ำบริจินดา เป็นถ้ำใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาดอยอินทนนท์
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้นจะเป็นช่วงหน้าหนาว เพราะว่าจะมีอากาศหนาวเย็น และมีทะเลหมอกให้นักท่องเที่ยวได้ชม หรือจะไปเที่ยวในช่วงอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ: เปิดให้บริการตลอดวัน และทุกวัน
ค่าบริการเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
6. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นภูเขาสวยๆ ในไทยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อุดมด้วยป่าเขียวชอุ่ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถไปชื่นชมธรรมชาติ และสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ และถ้าหากเดินเข้าไปก็จะพบกับน้ำตกด้วย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ดังนี้
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตที่ตกจากหน้าผาสูง และมีทิวทัศน์งดงาม
จุดชมทิวทัศน์เนินกูดดอย – ช้างเผือก เป็นจุดชมวิว 3 จุดจากเนินกูดดอย, เนินช้างเผือก และเนินช้างพลาย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยต่องปะแล เป็นสถานีศึกษาธรรมชาติ 9 สถานีให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
สำหรับผู้ที่อยากแวะมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมินั้นสามารถมาได้ทั้งในช่วงหน้าร้อน หรือในช่วงหน้าหนาว เพราะว่าจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจนมากกว่าปกติ
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ข้อมูลติดต่อ: ติดต่อได้ที่เฟสบุ๊กอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ หรือเบอร์โทร 0-3451-0979
เวลาเปิดบริการ: เปิดให้บริการตลอดวัน และทุกวัน
ค่าบริการเข้าชม: อัตราค่าเข้าของชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท และของชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
7. ภูทับเบิก
ภูทับเบิก เป็นอีกภูเขาที่สวยที่สุดในประเทศไทยที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถแวะมาชื่นชมธรรมชาติ หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ตลอดทั้งปี พร้อมกับดูวิถีชีวิตชนพื้นเมือง และเป็นหนึ่งในสถานที่กางเต็นท์ดูดาวท่ามกลางภูเขาสวยๆ ในประเทศไทยที่ไม่ควรพลาด
ช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
นักท่องเที่ยงสามารถแวะมาที่ภูทับเบิกได้ทุกช่วงเวลา เพราะว่ามีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่จะมีทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับดอกนางพญาเสือโคร่งที่เบ่งบานให้ทุกคนได้รับชม
|