อันดับที่ 10. ปลาแซลมอนซอคอาย (Sockeye Salmon)
ปลาแซลมอนซอคอาย หรือเรียกอีกชื่อว่า ปลาแซลมอนแดง เป็น 1 ใน 5 สายพันธุ์หลักของแซลมอนในแปซิฟิค จัดเป็นปลาน้ำกร่อยชนิดหนึ่ง พบทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิค เช่น แคนนาดา เกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น หรือประเทศรัสเซีย เป็นต้น มีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 1,400 บาท
อันดับที่ 9. ปลาโดเวอร์โซล์ (Dover Sole)
ปลาโดเวอร์โซล์ ไม่ใช่ปลาลิ้นหมา หรือปลาตาเดียว อย่างที่ทุกคนเข้าใจ โดยปลาชนิดนี้จะมีเฉพาะในน่านน้ำของยุโรปเท่านั้น อาศัยอยู่ตามก้นทะเลตามพื้นทราย มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท
อันดับที่ 8. ปลาแฮลิบัต(Halibut)
ถือเป็นปลาซีกเดียวที่มีขนาดใหญ่ ในวงศ์ปลาลิ้นหมาซีกขวา เป็นปลาที่มีความสำคัญในการนำมาประกอบพิธีการในศาสนาของคาทอลิก ปลาชนิดนี้อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล และออกหากินในเวลากลางคืน เพื่อสามารถอำพรางตัวจากศัตรูได้ มีอยู่ทั่วโลก ส่วนใหญ่พบกระจายพันธุ์ในซีกโลกเหนือ ที่มีอากาศหนาวเย็น นิยมกินอาหารตามพื้นทะเล โดยเมื่อยังเป็นตัวเล็กๆจะมีลักษณะเหมือนปลาปกติทั่วๆไป จนกระทั่งเมื่อเริ่มโตเต็มวัยตาจึงมีการย้ายข้างขึ้นมาทางซ้ายหรือขวา ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้นๆ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท
อันดับที่ 7. ปลาแซลมอนชินุค (Chinook Salmon)
เป็นพันธุ์ปลาแซลมอน 1 ใน 5 สายพันธุ์หลักของแปซิฟิค ตั้งชื่อตามชาวชินุค ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งแปซิฟิค ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา เป็นแซลมอนร้ำกร่อยกระจายอยู่ทางแปซิฟิคตอนเหนือ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย และทวีปเอเชีย เช่น ประเทศญี่ปุ่น เป็นปลาเศรษฐกิจสำคัญของประเทศนิวซีแลนด์ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,200 บาท
อันดับที่ 6. ปลาทูน่าครีบเหลือง (Yellowfin Tuna)
ปลาทูน่าครีบเหลือง เป็นปลาทะเลกระดูกแข็งชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาอินทรีย์ เป็นปลาชนิดเดียวที่มีการย้ายถิ่นสูง พบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรแอตแลนติก มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,500 บาท
อันดับที่ 5. ปลากระโทงดาบ (Swordfish)
ปลากระโทงดาบ พบกระจายพันธุ์ในมหาสมุทรเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วทุกมุมโลก อย่างเช่นมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นปลาที่มีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าว อย่างที่เห็นเป็นข่าวบ่อยครั้ง ในการกระโจนพุ่งขึ้นมาทำลายเรือ และคน เนื้อปลากระโทงดาบมีความแน่น เป็นปลาเนื้อขาว รสชาติอร่อย จึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท
อันดับที่ 4. ปลาอลาสก้าแซลมอน (Wild Alaskan King Salmon)
เป็นปลาแซลมอนที่วางขายในท้องตลาดทั่วไป เป็นปลาธรรมชาติ ราคาจึงค่อนข้างสูง แต่เราต้องสังเกตดีๆ เพราะที่เขียนว่าเนื้อปลาแซลมอนที่วางจำหน่ายอยู่นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ปลาแซลมอนแต่อย่างใด เพียงแต่มีลักษณะเหมือนกับเนื้อปลาแซลมอน แต่นั่นคือเนื้อของปลาเรนโบว์เทราต์ ต่างหากล่ะ หรืออาจจะเป็นปลาแซลมอนฟาร์มเลี้ยง ราคาจึงถูกลงกว่าเดิมเยอะ แต่เราจะมีข้อสังเกตของเนื้อปลาแซลมอนธรรมชาติ และแบบฟาร์มเลี้ยง ซึ่งกากเป็นปลาแซลมอนตามธรรมชาติแล้วสีจะไม่สด หรือไม่สม่ำเสมอ เส้นลายชั้นไขมันก็จะไม่เด่นชัดเท่าเนื้อปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยง หากเป็นปลาอลาสก้าแซลมอนธรรมชาติ จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 5,000 บาท
อันดับที่ 3.ปลาปักเป้า (Duffer Fish)
เนื้อปลาปักเป้า นิยมรับประทานในประเทศญี่ปุ่น เปรียบเป็นสินค้าของความมั่งคั่ง บ่งบอกความหรูหราของชนชั้น และความเชี่ยวชาญด้านอาหาร หรือความใช้ทดสอบความกล้าหาญของเหล่าซามูไร จะใช้เสิร์ฟในงานเลี้ยงหรืองานสำคัญ จัดเป็นอาหารหรูสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น และเชฟที่จะสามารถทำเมนูจากปลาปักเป้าได้ต้องมีความรู้ความสารมารถและใบรับรอง เนื่องจากปลาปักเป้าเป็นปลามีพิษ สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 14,000 บาท กันเลยทีเดียว
อันดับที่ 2. ปลาไหลแก้ว (Glass Eel)
เป็นปลาไหลที่มีขนาดเล็ก จัดเป็นอาหารหรูของประเทศสเปน กระจายพันธุ์อยู่ในน่านน้ำแถบทวีปยุโรป ฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อนำมาทำเมนูจะไม่รับรสว่าเป็นเนื้อปลา มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 39,000 บาทและปลาที่ครองตำแหน่งแชมป์ ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกเป็นลำดับที่1 นั่นก็คือ
อันดับที่ 1. ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna)
ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ ปลาจากธรรมชาติสุ่มเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์จากการถูกล่า เรื้อตากมีรสชาติเป็นเลิศ เนื้อปลาอร่อย สดเด้ง โดยมีสถิติในการประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่แพงที่สุดในโลก ราคาประมูลอยู่ที่ 98.60 ล้านบาท จนมีกลุ่มอนุรักษ์ได้จัดให้มีการว่างเว้นจากการไล่ล่า จนทางตอนใต้ของออสเตรเลียทำเป็นฟาร์มเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินเพื่อส่งขายญี่ปุ่น นิยมนำมาทำซูชิ เนื่องจากให้รสสัมผัสดีเยี่ยม โดยเฉพาะส่วนที่ติดกับท้อง หรือ ออโตโร่ จัดเป็นชั้นไขมันที่อร่อยลิ้น ซึ่งปลาทูน่าครีบน้ำเงินนี้เมื่อเห็นราคาขายแล้ว อาจทำให้ทุกคนต้องตกใจ เพราะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300,000 บาท
|