1. Amazfit GTR 4
SmartWatch รุ่นไหนดี
Amazfit ถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ และได้รับความนิยมสูง จนถึงตอนนี้ก็ได้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว อย่าง Amazfit GTR 4 ที่มาในดีไซน์หน้าปัดกลม ดูทันสมัย เท่ และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Grey, Black และ Brown
สเปคคร่าวๆ
สิ่งที่น่าสนใจ
สมาร์ทวอช Amazfit GTR 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย
ข้อสังเกต
เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน
ราคา ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท
2. Samsung Galaxy Watch 5
Samsung Galaxy Watch 5 นาฬิกา Smart Watch จากทาง Samsung รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์การวัดความดันโลหิต โดยรุ่นที่เราได้นำมาแนะนำกันนั้นเป็นรุ่น Bluetooth มาที่มาพร้อมหน้าปัดกลม กระจกหน้าจอที่ใช้วัสดุ Sapphire crystal มีความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมจอภาพ Super AMOLED ที่มีการแสดงผลที่คมชัดเป็นอย่างมาก สำหรับ Galaxy Watch 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดแสง, การวัดหัวใจแบบ Optical, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า, Gyroscope, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์การวิเคราะ BIA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันในการใช้งานสำหรับการเป็น นาฬิกาออกกำลังกาย 2023 อย่างครบครัน
สเปคคร่าวๆ
สิ่งที่น่าสนใจ
Samsung Galaxy Watch 5 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android อย่าง Samsung ที่สามารถใช้งานร่วมกับนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งตัวนาฬิกายังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งานอย่างครบครัน
ข้อสังเกต
สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
ราคา: 9,990 บาท
3. Suunto 7
Smart Watch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 7 ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 อีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น All Black, Black Lime, Graphite Copper, Sandston Rosegold และ White Burgundy
สเปคคร่าวๆ
สิ่งที่น่าสนใจ
SUUNTO 7 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย
ข้อสังเกต
โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังเน้นไปที่การใช้งานร่วมกับ Android มากกว่า iOS ถึงแม้ว่าจะรองรับทั้งการใช้งาน iOS และ Android แต่ Android นั้นจะสามารถใช้งานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
ราคา: ประมาณ 8,900 บาท
4. Xiaomi Mi Band 7 Pro
ปกติเราจะคุ้นชินกับ Mi Band ที่เป็น Smart Band ขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ฟีเจอร์เกินราคา ในรอบนี้ มาดูในรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาอย่าง Xiaomi Mi Band 7 Pro ที่มาในดีไซน์หน้าจอแบบสีเหลี่ยมขอบมน ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการออกกำลังกาย รองรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจ มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
สเปคคร่าวๆ
สิ่งที่น่าสนใจ
สำหรับ Xiaomi Mi Band 7 Pro ถือว่าให้ฟีเจอร์การใช้งานมาครบครันมากๆ ทั้งการตรวจจับวัดค่าต่างๆ รวมไปถึงการออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากมาย แถมยังมี GPS ในตัวด้วย ช่วยให้การออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่งนั้น สามารถทำได้ดีและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
สำหรับ Xiaomi Mi Band 7 Pro นั้นมีฟีเจอร์แสดงการแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถพูดคุยโทรศัพท์แบบ Bluetooth calling ผ่านทาง Smart Watch ได้
ราคา ประมาณ 2,299 บาท
|