ทำความรู้จัก 10 สายพันธุ์ซากุระ

พอพูดถึง “ซากุระ” ทุกคนจะนึกภาพซากุระแบบไหนกันนะ ดอกไม้กลีบสีชมพู การมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น? ซึ่งจะว่าผิดก็ไม่ใช่จะว่าถูกก็ไม่เชิง นั่นก็เพราะว่า”ซากุระ”มีมากมายหลายประเภทยังไงล่ะ แต่ละประเภทก็มีสิ่งที่คล้ายกัน แต่ก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปอยู่ด้วยนั่นเอง ในญี่ปุ่น มีตั้งแต่ซากุระป่า จนถึงซากุระสำหรับตกแต่งสวนกว่า200ชนิด ทั้งสี รูปร่างของกลีบ ขนาด ก็แตกต่างกันไป สำหรับครั้งนี้ เราจะขอแนะนำซากุระ10ชนิดที่คนส่วนใหญ่รู้จักกัน รวมทั้งจุดเด่นของแต่ละชนิดด้วย ถ้าคุณได้อ่าน คุณอาจจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญดด้านซากุระไปก็ได้นะ!
 
โซเมอิโยชิโนะ
 
 
ซากุระสำหรับตกแต่งสวนที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น จากข้อมูลของหลายปีที่ผ่านมา ที่เกาะคิวชูหรือเกาะชิโกะคุจะเริ่มบานประมาณวันที่20มีนาคม ซึ่งเมื่อเข้าปลายเดือนมีนาคม ที่โตเกียวก็จะบานเต็มที่แล้ว และเมื่อเข้ากลางเมษายน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จะค่อยๆเริ่มบาน ซากุระชนิดนี้จะมี5กลีบและมีเพียงชั้นเดียว มีสีชมพูอ่อน บางครั้งก็เห็นเป็นสีขาว จุดเด่นคือจะมีช่อดอกงอกออกมาจากลำต้น และเมื่อเลยช่วงบานเต็มที่ เมื่อดอกไม้ร่วงหมดแล้ว ใบอ่อนจะเริ่มงอกออกมา
 
ยามะซากุระ
 
 
ในบรรดาซากุระป่า ซากุระชนิดนี้มีอยู่ทั่วไป ที่ตั้งชื่อให้ซากุระชนิดนี้ว่า “ยามะซากุระ(ซากุระภูเขา)” เพราะพบเห็นได้บ่อยบนภูเขาในญี่ปุ่น กลีบดอกมี5กลีบเหมือนโซเมอิโยชิโนะ สำหรับสีจะมีหลากหลายตั้งแต่สีขาว สีชมพูอ่อน หรือแม้แต่สีชมพูเข้ม ทางฝั่งคันโตจะเริ่มบานจากกลางเดือนเมษายน ส่วนจุดเด่นที่ต่างจากโซเมอิโยชิโนะ คือใบอ่อนจะบานพร้อมกับดอกไม้ที่บานเต็มที่
 
ชิดาเระซากุระ
 
 
ชิดาเระซากุระ เป็นซากุระประจำเมืองเกียวโต(ดอกไม้ที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนั้นๆ) ช่วงที่ซากุระบานเต็มที่คือปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน ซึ่งจะบานเร็วกว่าโซเมอิโยชิโนะประมาณ1อาทิตย์ สำหรับชิดาเระซากุระที่มีชื่อเสียงที่สุดคือมิฮารุทาคิซากุระของจังหวัดฟุคุชิม่า ซึ่งซากุระต้นนี้มีอายุมากกว่า1,000ปี และถือเป็นหนึ่งใน “ซากุระทั้ง5แห่งญี่ปุ่น” ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่น
 
เอโดะฮิกัง
 
 
ที่มาของชื่อนี้มาจากซากุระชนิดนี้บานในช่วง “ฮิกังฤดูใบไม้ผลิ” ประมาณวันที่20มีนาคม “ฮิกังฤดูใบไม้ผลิ” คือคำโบราณในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงวันเริ่มฤดูใบไม้ผลิทื่ช่วงกลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน ซากุระชนิดนี้มีกลีบดอกเล็ก สีชมพูอ่อน จุดเด่นอยู่ที่โคนดอกจะพองกลม ต้นซากุระที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น คือ เอโดะฮิกัง2,000ปี ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดจิสโซจิในจังหวัดอาโอโมริ ซากุระต้นนี้เรียกกันว่า ซากุระยามาตากะจินได บานเต็มที่ช่วงต้น ถึงกลางเดือนเมษายน
 
คันซัง
 
 
ซากุระชนิดนี้ในหนึ่งดอกมีมากกว่า5กลีบและบาน8ชั้น ซึ่งมีดอกที่มีกลีบมากกว่า50กลีบด้วย ซากุระเหล่านี้ชูคอบานกันเต็มที่อย่างยิ่งใหญ่ฟูฟ่า ช่วงที่บานเต็มที่จะช้ากว่าซากุระชนิดอื่นๆ ดังนั้น ช่วงที่เหมาะในการชมคือกลางเดือนเมษายน กลีบของซากุระชนิดนี้จะมีสีชมพูเข้ม และเนื่องจากออกดอกกันหนาแน่นจึงตามหาเจอได้ไม่ยาก
 
อิโจ
 
 
อิโจมีความหมายว่า “ใบไม้1ใบ” ที่มาของชื่อนี้มาจาก ส่วนกลางดอกไม้ มีเกสรตัวผู้ที่มีรูปร่างเหมือนใบไม้ยื่นออกมา1-2แท่ง และมีกลีบดอกประมาณ20-40กลีบล้อมรอบอยู่นั่นเอง ซากุระชนิดนี้บาน8ชั้น ชั้นในสีขาว ชั้นนอกสีชมพูเข้ม จุดเด่นจึงอยู่ที่การไล่สีอันละเอียดอ่อนนั่นเอง จุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือ ใบอ่อนจะผลิพร้อมกับดอกซากุระที่บานเต็มที่ และใน “เทศกาลอาซากุสะคันนนอุระอิจิโยซากุระ” ที่จัดที่อาซากุสะในเดือนเมษายนของทุกปี ก็มีอิโจอันงดงามให้คุณได้ชื่นชมกันด้วย
 
คังฮิซากุระ
 
 
ซากุระชนิดนี้กระจายอยู่ตามพื้นที่ภาคใต้อันอบอุ่น ดูเผินๆ จะแตกต่างจากซากุระตามต้นตำหรับ แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นหากพูดถึง “ซากุระ”ที่โอกินาว่า จะต้องพูดถึงคังฮิซากุระ ซึ่งสามารถหาชมได้ที่เวียดนามและจีนด้วย นอกจากนั้น ซากุระชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไต้หวันอย่างมาก จึงมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Taiwan cherry” กลีบดอกมีสีชมพูเข้ม และช่วงที่บานเต็มที่จะเร็วกว่าซากุระชนิดอื่นๆ เพราะจะบานตั้งแต่เดือนมกราคม
 
คิคุซากุระ
 
 
ดอกคิคุ เป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบเหมือนกับดอกซากุระ และซากุระชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับดอกคิคุ จึงได้ชื่อว่าคิคุซากุระ จุดเด่นคือดอกจะบานฟูๆกลมๆ และมีใบอ่อนขนาดใหญ่รอบล้อม ในหนึ่งดอกมีกลีบเบาบางกว่า80กลีบ ช่วงเวลาบานเต็มที่จะช้า โดยในโตเกียวสามารถหาชมได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน
 
อุคง
 
 
เมื่อพูดถึงซากุระ คนส่วนใหญ่ก็คงจะคิดถึงสีชมพูหรือสีขาว แต่อุคงเป็นซากุระชนิดเดียวที่ดอกจะเป็นสีเหลือง สำหรับอุคง หมายถึง เครื่องเทศสีเหลืองที่ใช้ในแกงกะหรี่ ส่วนในญี่ปุ่นใช้สำหรับป้องกันการเมาค้าง โดยซากุระชนิดนี้จะมีกลีบประมาณ15-20กลีบ ที่โตเกียวจะบานประมาณกลางเดือนเมษายนเหมือนกับอิโจ
 
โคเกนโซ
 
 
ถ้าแปลคำว่าโคเกนโซตรงๆ จะแปลว่า “ช้างของสมนฺตภทฺร(=พระสมันตภัทรโพธิสัตว์)หมายถึง ช้างที่พระสมันตภัทรขี่ ซึ่งมักถูกวาดในภาพวาดทางศาสนาอยู่บ่อยครั้ง จุดเด่นของฟุเกนโซ คือจะมีเกสรตัวผู้โผล่ออกมาจากกลางดอกไม้ เหมือนกับงวงช้าง จึงถูกตั้งชื่อนี้มาตั้งแต่ยุคมุโรมาจิ(ปี1336-1573) จำนวนของกลีบดอกมีประมาณ40กลีบ มีจุดเด่นตรงที่ใบจะมีรอยหยักถี่ ช่วงบานเต็มที่จะช้า โดยที่โตเกียวจะบานเต็มที่ช่วงปลายเดือนเมษายน

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่