บนโลกนี้มีอะไรแปลกและน่าสนใจอีกมากมายให้เราได้ไปเรียนรู้ นอกจากประเทศสวยงามในยุโรปอย่างสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์โบราณน่าสนใจแล้ว วันนี้ DIY INSPIRE NOW จะพาไปรู้จักกับประเทศที่ไม่มีกลางคืน ! หลายคนคงสงสัยมากว่า ประเทศไม่มีกลางคืน เป็นไปได้อย่างไร? มีจริงไหม? ลองมาดูกันเลยว่า ทำไมบางประเทศไม่มีกลางคืนนะ
เพราะปกติแล้วโลกหมุนรอบตัวเอง หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์และออกจากดวงอาทิตย์ทำให้เกิดเป็นเวลากลางวันและกลางคืน โดยด้านที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์นั้นจะเป็นกลางวันในขณะที่ด้านที่หันออกจากดวงอาทิตย์จะเป็นเวลากลางคืน แต่เพราะแกนโลกเอียง ทำให้ประเทศที่อยู่ติดขั้วโลกบางส่วนต้องหันด้านใดด้านหนึ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลาเป็นระยะเวลาหลายเดือน จึงเป็นประเทศไม่มีกลางคืน และในทางกลับกันอีกหลายเดือนที่จะหันออกจากดวงอาทิตย์กลายเป็นประเทศที่ไม่มีกลางวัน ประเทศเหล่านี้มีประเทศอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ประเทศไม่มีกลางคืน ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่แสนสวยงาม
1. Iceland
ดินแดนแห่งน้ำแข็งในทางตอนเหนือของ United Kingdom ที่มีภูมิทัศน์ธรรมชาติงดงาม โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนสำหรับประเทศไม่มีกลางคืนเป็นระยะเวลานานหลายเดือน นอกจากความแปลกในด้านของวันและเวลาแล้ว ไอซ์แลนด์ยังเต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวอย่างน้ำตก บลูลากูน หรือภูเขาอย่างเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) ที่โด่งดัง ถ้าชอบสถานที่ท่องเที่ยวและวิวที่อลังการ Iceland คือประเทศที่ให้คำตอบ ลองไปเยือนประเทศที่ไม่มีกลางคืนที่นี่ดูสักครั้งสิคะ
2. Greenland
กรีนแลนด์หรือดินแดนสีเขียว ส่วนหนึ่งของการปกครองเดนมาร์ค ซึ่งถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ขึ้นไปทางเหนือจนเกือบถึงขั้วโลก ทำให้ส่วนใหญ่ของกรีนแลนด์ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดเวลา มีธารน้ำแข็งที่สวยงาม และพระอาทิตย์เที่ยงคืน กรีนแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศไม่มีกลางคืน ที่มีกลางวันยาวนานเป็นเวลาหลายเดือน มีแสงเหนือหรือออโรร่าที่สวยงาม ส่วนเมืองทางใต้นั้นจะเป็นเมืองที่มีชุมชนคนอยู่เป็นกลุ่มซึ่งช่วงที่ไม่มีน้ำแข็งปกคลุมจะมีกิจกรรมให้ทำมากมายหลากหลายเลยทีเดียว หากชอบท่องเที่ยวกรีนแลนด์สามารถไปกันได้เลย
3. Canada
แคนาดาเป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มของประเทศยุโรป แต่เพราะแคนาดามีส่วนที่อยู่ติดกับขั้วโลกเหนือจึงทำให้มีหลายเมืองที่มีกลางวันยาวนาน โดยเฉพาะหมู่เกาะทางด้านตอนเหนือของแคนาดา ที่จะเป็นโซนที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืนอยู่หลายเดือนในรอบปี
4. Norway
นอร์เวย์เป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุด โดยเฉพาะการไปดูแสงเหนือและพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่นอร์เวย์ได้รับฉายาว่า The Midnight Sun หรือดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนนั่นเอง จุดชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนและแสงเหนือที่มีชื่อคือเมืองทรอมโซ (Tromso) แต่นอกจากนี้ก็ยังมีเมืองและจุดชมวิวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่นเกรังเกอร์ฟยอร์ด(Geirangerfjord) จุดชมวิวดาล์สนิบบา (Dalsnibba) ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในยุโรปอย่าง มิวนิก ประเทศเยอรมัน หรือ บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เลยล่ะค่ะ
5. Sweden
อีกประเทศไม่มีกลางคืนที่อยู่ในแถบแสกนดิเนเวีย มีอากาศหนาวเป็นส่วนใหญ่ และภูมิประเทศสวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยว เมืองหลวงอย่างกรุงสต๊อคโฮล์ม ก็มีประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์มากมายให้เรียนรู้ นอกจากนี้หากชอบกีฬาฤดูหนาวอย่างสกี ที่สวีเดนก็จะมีสกีรีสอร์ทดีๆ ให้มาเล่นกันได้อย่างมากมาย สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่มีกลางคืน และในฤดูร้อนกลางวันอาจจะยาวนานติดต่อกันหลายวัน น่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย
6. Finland
ฟินแลนด์แดนซานต้าเป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่มีพรมแดนอยู่ติดกับสวีเดน นอร์เวย์และรัสเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เราสามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ และมีช่วงเวลาหนึ่งของปีที่จะมีช่วงกลางวันยาวนานเมื่อเทียบกับช่วงเวลากลางคืน เราอาจจะไม่ค่อยได้สัมผัสฟินแลนด์บ่อยในฐานะประเทศท่องเที่ยวชอปปิ้ง แต่การท่องเที่ยวฟินแลนด์ก็เป็นสวรรค์สำหรับคนที่รักธรรมชาติ เสาะหาแสงเหนือและออโรร่า
7. Alaska
ถ้าพูดถึงท่องเที่ยวเขตโซนขั้วโลกจะไม่พูดถึงอลาสก้าคงไม่ได้เลย เมืองเหนือสุดของอเมริกาที่ใครๆ ก็อาจไม่รู้ว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในประเทศไม่มีกลางคืนเช่นกัน เพราะอลาสก้านั้นอยู่ติดกับขั้วโลกเหนือทำให้มีบางช่วงของปีที่จะมีกลางวันยาวนาน และยังมีแสงเหนือให้เราเห็นได้อีกด้วย ถ้าเกิดใครชื่นชอบกิจกรรมเมืองหิมะเช่นสกี ล่องธารน้ำแข็ง ชมวาฬ ก็อย่าลืมอลาสก้า เมืองเหนือสุดของอเมริกาหนึ่งในประเทศที่ไม่มีกลางคืนกันค่ะ
|