รวมวิธีปลดหนี้ แล้วชีวิตจะได้ตั้งหลักได้สักที

1. “เปิดใจ” ยอมรับความจริง ดูว่าหนี้สินทั้งหมดของเรามีอะไรบ้าง
 
เมื่อรู้ตัวว่าตัวเอง มีภาระหนี้สินมากเกินไป การหนีไม่ช่วยให้หนี้สินหมดไปแน่นอนและยิ่งเราทำเป็นไม่สนใจไปเรื่อย ๆ จำนวนหนี้ก็จะขยายใหญ่ขึ้นจนหนทางแก้ไขในที่สุดนาทีนี้ การเปิดใจยอมรับความจริงคือสิ่งที่ควรทำที่สุด เริ่มจากการหยิบใบแจ้งหนี้ที่คุณเคยซ่อนไว้ออกมาให้หมด
 
เปิดดูทุกรายการอย่างละเอียด หากยอดสูงติดเพดาน ก็อย่าเพิ่งใจเสียจนไม่กล้าดูต่อ หลังจากนั้นมาพิจารณาว่าที่ผ่านมาเราค้างค่าชำระกี่งวดมีจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยเท่าไร ถึงกำหนดวันชำระเมื่อไรเพื่อจะได้ว่ารายการไหนรอได้ หรือรายการไหนต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน
 
2. “ปิดยอดหนี้” ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
 
พอเห็นยอดหนี้ที่เรามีทั้งหมดแล้วทีนี้ มาวางแผนการชำ ระ อย่างเป็นระบบกันดีกว่าโดยแยกออกเป็นหนี้ระยะสั้นยอดหนี้รวมคงเหลือน้อย อัตราดอกเบี้ยต่อปีสูง มีงวดผ่อนชำระน้อย เช่น หนี้บัตรเครดิตสินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ และหนี้ระยะยาว
 
ยอดหนี้รวมคงเหลือมากมีอัตราดอกเบี้ยต่อปีต่ำ แต่มีงวดผ่อน ชำระมาก เช่น สิ น เ ชื่ อ บ้าน รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งในที่นี้ขอแนะนำให้ปิดยอดหนี้ระยะสั้นที่มียอดหนี้รวมคงเหลือน้อยที่สุดอัตราดอกเบี้ยต่อปีสูงที่สุด
 
และเหลืองวดผ่อน ชำระน้อยที่สุดเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยสูงไปมากกว่านี้ หากปิดยอดหนี้แรกสำเร็จก็จะสบายใจขึ้นและรู้สึกมีกำลังใจในการปิดยอดหนี้อื่นต่อ ๆ ไป
 
3. “โปะหนี้ ” ปรับแผนการชำระหนี้อย่างมีสติ ไม่สร้างหนี้ใหม่
 
บางคนใจร้อนไปหน่อย อยากปลดหนี้ให้หมดไว ๆ เลยใช้ทางลัดไม่ว่าจะเป็นการหยิบยืม จากคนรอบข้าง ใช้บัตรกดเงินสด เปิด สิ น เ ชื่ อ ส่วนบุคคลหรือเลือกกู้เงิน นอกระบบ มาโปะหนี้เก่าให้หมดเร็วที่สุดซึ่งขอบอกว่าวิธีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย
 
แม้หนี้ก้อนเก่าจะหมดไปแต่หนี้ก้อนใหม่ ก็จะเข้ามาแทนที่ แถมดอกเบี้ยยังสูงมากอีกด้วย จึงอยากแนะนำให้ใจเย็นสักนิดแล้วลองหาวิธีการชำระหนี้แบบง่าย ๆ แต่ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และเป็นภาระให้ตนเองในภายหลัง เช่น ประหยัดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นลง หรือเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นเงินสดเพื่อมาโปะหนี้ เป็นต้น
 
4. “ปรึกษาธนาคาร” หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
 
ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วไม่เห็นผล การติดต่อกับธนาคารหรือสถาบัน การเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของเราคือทางออกที่ดีที่สุดบอกเขาไปตรง ๆ เลยว่าหนี้สินทั้งหมดนั้นเราไม่สามารถจ่ายไหวในระยะเวลาที่กำหนด แต่ยืนยันว่าจะไม่เบี้ยวหนี้แน่นอนเราในฐานะลูกหนี้ก็ไม่อยากเสียประวัติ
 
ส่วนธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก็ต้องการให้เราชำระเงินให้ครบเช่นกันฉะนั้น ทั้งเราและเขาต้องหาจุดกึ่งกลางร่วมกันพูดคุยถึงสถานการณ์ของเราว่าสะดวกผ่อน ชำระได้เมื่อไร งวดละเท่าไรและธนาคารเองมีนโยบายใดที่ช่วยเหลือเราได้บ้าง เช่น พักชำระหนี้ ชั่วคราวขอจ่ายเฉพาะเงินต้นไปก่อน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือรีไฟแนนซ์ เป็นต้น เพราะหนี้สินคือสิ่งที่ไม่มี อยากเจอ แต่ถ้าเจอแล้วต้องวางแผนให้รอบคอบพร้อมลงมือทำอย่างมีวินัยนั้น
 
เชื่อว่าเราจะเปลี่ยนจากสถานะลูกหนี้ไปสู่คนไม่มีหนี้ได้แน่นอน และขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราบริหารการใช้เงินในปัจจุบันและอนาคต อย่างมีสติเพื่อไม่ให้ความรู้สึกกังวลจากหนี้สินวนกลับมาอีกครั้ง

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่