4 ลักษณะตุ่มขึ้นที่น้องสาวแบบไหนอันตรายพร้อมแนวทางดูแลรักษา

สาวๆ หลายคนอาจจะเคยมีความกังวลกับปัญหาตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งเมื่อสัมผัสเจอตุ่มที่บริเวณดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือบางคนอาจคิดไปไกลถึงการเป็นโรคร้ายเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจึงอยากชวนสาวๆ มารู้ทัน 4 ลักษณะของตุ่มที่ขึ้นบริเวณน้องสาว พร้อมทั้งแชร์วิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องกันค่ะ
 
 
1.ตุ่มนูนสีขาว
ตุ่มนูนสีขาว หรือเรียกว่า Fordyce spot เป็นต่อมไขมันที่มีลักษณะเป็นเม็ด จะมีทั้งสีขาวและสีเหลืองอ่อน โดยสามารถพบได้ทั้งตุ่มเดียวหรือหลายตุ่ม ตุ่มลักษณะนี้จะไม่มีอาการเจ็บ แต่จะมีขนคุดร่วมกับต่อมไขมัน เป็นตุ่มที่ไม่เป็นอันตราย และไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในส่วนของอาการจะมีแค่ปวดบวมแดงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในส่วนของการรักษาสามารถใช้วิธีการประคบร้อน ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดเบื้องต้นได้ ควรหลีกเลี่ยงการบีบ และสามารถใช้ยาแก้อักเสบทาบริเวณผิวหนังเพื่อลดอาการอักเสบได้เช่นกัน
 
 
2.ตุ่มน้ำใสหรือตุ่มนูนแดง
ตุ่มน้ำใสหรือตุ่มนูนแดง เป็นตุ่มที่เกิดจากการระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ โดยสารเคมีที่พบบ่อยมักจะเป็นสารเคมีจำพวกน้ำหอมที่มาจากผ้าอนามัย รวมทั้งการใส่ผ้าอนามัยหลายชั่วโมงติดต่อกัน จะทำให้เกิดการอับชื้น และทำให้เป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มนูนแดงได้เช่นเดียวกัน ในส่วนของการรักษานั้น หากมีตุ่มขึ้นไม่มาก ก็สามารถทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นตามปกติ พร้อมทั้งปรึกษาเภสัชเพื่อซื้อยาทาเองที่บ้าน ที่สำคัญจะต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
 
 
3.ตุ่มเป็นผื่นนูนแดง
ตุ่มที่มีลักษณะเป็นผื่นนูนแดง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งเกิดจากการอับชื้น ทั้งนี้หากตุ่มที่ขึ้นเป็นตุ่มแดงและมีหัวคล้ายสิว ตุ่มลักษณะนี้มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมอยู่ด้วย สำหรับการรักษาตุ่มเป็นผื่นนูนแดง แนะนำให้ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำสบู่ที่มีความอ่อนโยน ห้ามปล่อยให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดความอับชื้น หรือบางรายอาจจะต้องกินยาปฏิชีวนะร่วมด้วย นอกจากนี้ห้ามทำการบีบเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายไปทั่ว ส่งผลให้ตุ่มลามไปยังบริเวณอื่นๆ ได้
 
 
4.ตุ่มเป็นแผล
ตุ่มเป็นแผล รวมทั้งมีหนองด้วยนั้น เป็นไปได้ว่าอาจเป็นสัญญาณอาการแรกเริ่มของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น แผลริมอ่อน เริม และซิฟิลิส โดยลักษณะของตุ่มและอาการของโรคนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นจะมีทั้งตุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ตุ่มกลายเป็นแผลหนอง มีอาการแสบคัน หรืออาจมาพร้อมกับไข้ สำหรับการรักษาตุ่มเป็นแผล แนะนำให้พบคุณหมอ เพื่อปรึกษาและเพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งรับการรักษาได้ตรงกับอาการของโรคต่อไป
 
อย่าลืมนะคะว่า หากมีตุ่มเกิดขึ้นที่บริเวณจุดซ่อนเร้น สาวๆ ควรสังเกตดูลักษณะและอาการของตุ่มให้ดี หากตุ่มมีลักษณะที่ไม่สามารถรักษาได้เอง ควรรีบพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้อาการที่เกิดขึ้นยิ่งแย่ลงนั่นเอง

บทความอื่นๆ

สินค้าใหม่