1. Zaapi
Zaapi คือแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์การขายทรงพลัง เหมาะกับการขายของออนไลน์ทุกรูปแบบ แค่เพียงดาวน์โหลดแอป Zaapi ก็สร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ในไม่กี่วินาที และข้อดีของ Zaapi ก็คือ เหมาะกับร้านค้าและสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะขายเสื้อผ้า เบเกอรี่ ร้านอาหาร หรือธุรกิจประเภทไหนก็สร้างหน้าร้านออนไลน์ได้ง่าย ๆ ในแอป Zaapi นอกจากนี้ Zaapi ยังมีฟีเจอร์สำคัญอีกมากมายที่ช่วยให้การขายออนไลน์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น
2. Lazada
ถ้าจะพูดถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เรารู้จักกันดี เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องยกให้ Lazada หรือ ลาซาด้า เพราะมาร์เก็ตเพลสอีคอมเมิร์ซแห่งนี้เป็นที่นิยมกันมากในหมู่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ข้อดีคือเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและขายได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น ตัวแพลตฟอร์มมีความน่าเชื่อถือสูง นอกจากนี้ Lazada ยังมีระบบการจัดส่ง การจัดเก็บสินค้าและการจ่ายเงินที่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก แล้วก็ยังมีการจัดโปรโมชั่นอย่างสม่ำเสมอ แต่ข้อเสียก็คือมีการแข่งขันสูง คือต้องแข่งกับทั้งร้านค้ารายย่อยและแบรนด์ดัง ๆ แถมยังต้องเสียเงินโปรโมทเพื่อให้สินค้าขึ้นบนหน้าค้นหาในตัวแพลตฟอร์มด้วย
3. Shopee
เมื่อพูดถึง Lazada แล้ว อีกหนึ่งเว็บขายออนไลน์ฟรีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Shopee เพราะนอกจากจะได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แล้ว Shopee ยังเป็นที่นิยมสำหรับขาช้อปออนไลน์อีกด้วย และหากจะพูดถึงจุดเด่นของ Shopee ก็คล้ายกับ Lazada คือ มีระบบการโอนเงินที่ปลอดภัย มีการช่วยออกค่าส่งให้คนขาย และมีการจัดโปรเพื่อดึงดูดลูกค้าขาช้อปอยู่เรื่อย ๆ แต่หากจะพูดถึงข้อเสีย ก็คือ มีคู่แข่งเยอะ ต้องจ่ายเงินโปรโมทร้านหรือสินค้าเพื่อให้ขึ้นหน้าการค้นหาในเว็บและแอปช้อปปี้ และถ้าหากขายใน Shopee Mall ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย
4. KAIDEE
ในวงการขายของออนไลน์คงไม่มีใครไม่รู้จักเว็บ KAIDEE หรือ ขายดี เพราะเว็บนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับการขายสินค้าทั่วไปและขายของมือสอง ข้อดีคือขายสินค้าได้ทุกประเภททั้งรถ บ้าน นาฬิกา และอื่น ๆ อีกมากมาย และนอกจากจะลงขายสินค้าได้ฟรีแล้ว ขั้นตอนการลงสินค้าก็ง่ายมาก ๆ แค่ล็อกอิน อัพรูปสินค้าและรายละเอียดก็ขายได้แล้ว เรียกว่าไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถทำเงินได้ทันที
และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ผู้ขายสามารถทิ้งข้อมูลไว้เพื่อให้ลูกค้าติดต่อนอกรอบได้ด้วย แต่ข้อเสียก็คือต้องซื้อไข่เพื่อโปรโมทสินค้าที่ขายในแพลตฟอร์ม และส่วนใหญ่จะเป็นการลงขายของมือสองมากกว่า ดังนั้นหากคุณจะขายสินค้าทั่ว ๆ ไปหรือสินค้าแบรนด์คุณเอง แพลตฟอร์มนี้ก็อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่
5. PantipMarket
รู้หรือไม่ว่า Pantip ที่เราเอาไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็มีแพลตฟอร์มให้ขายของออนไลน์กันแบบฟรี ๆ ด้วย? และแพลตฟอร์มนั้นเรียกว่า PantipMarket มีทั้งเว็บไซต์และแอปให้ขายสินค้า วางขายได้ตั้งแต่อสังหาฯ, พระเครื่อง, รถยนต์, สัตว์เลี้ยง ฯลฯ ข้อดีคือหากไม่เก่งเรื่องลงขายสินค้า ทางตัวแพลตฟอร์มจะมีทีมงานช่วยจัดการให้และสามารถสมัครใช้งานได้ง่าย ๆ ด้วยบัญชี Facebook, Google และ Twitter
ทั้งนี้ข้อเสียก็คือ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากลงขายสินค้ามือหนึ่ง เพราะ PantipMarket เป็นพื้นที่สำหรับลงขายลงขายสินค้ามือสอง ถ้าหากอยากขายสินค้าใหม่ ก็อาจจะต้องพิจารณาเว็บขายของออนไลน์ฟรีอื่น ๆ ดู
|