น้ำหอมนับเป็นไอเท็มสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนรอบข้าง แต่ท่ามกลางน้ำหอมที่มีให้เลือกหลากหลาย แถมยังมาพร้อมรูปแบบการดีไซน์กลิ่นมากมาย ตัวไหนที่จัดได้ว่าเป็นตัวท็อปของวงการ ในแบบที่ซื้อมาแล้วจะไม่ทำให้ผิดหวังบ้าง ลองมาเก็บลิสต์น้ำหอมผู้ชายที่ถูกยกให้เป็นเดอะเบสในแต่ละกลิ่น โดยออกแบบกลิ่นตั้งแต่ช่วง Top Note, Middle Note ไปจนถึง Base Note ได้อย่างลงตัว ซึ่งจะมีกลิ่นโทนใดบ้างนั้น ตามมาดูไปพร้อมกัน
1. กลิ่นโทน Fruity : Armani Code
สายความสดชื่นต้องมารวมกันที่โทนกลิ่น Fruity เพราะเป็นกลิ่นที่มักรวมเอาผลไม้และธรรมชาติหลากหลายมารวมกันไว้ในขวดได้อย่างลงตัว บางกลิ่นที่ไม่คิดว่ามาอยู่บนตัวแล้วจะหอมกลิ่นโทนนี้กลับทำได้อย่างน่าประทับใจ กลิ่นโทนนี้ให้ฟีลผู้ชายอ่อนโยน หวานอ่อนๆ แต่ยังคงความน่าค้นหาเอาไว้ได้ดี
แนะนำเลยว่าใครอยากได้ฟีลกลิ่นของผู้ชายเท่และอบอุ่นต้องไม่พลาด Armani Code กลิ่นเริ่มต้นมาอย่างสดชื่นด้วย Bergamot และ Lemon ตามด้วยกลิ่นของเครื่องเทศที่ให้ฟีลนุ่มลึกอย่าง Tar Anise, Olive Blossom และ Guaiac Wood ปิดท้ายแบบขรึมๆ เป็นกลิ่นที่จะติดตัวอ่อนๆ ในตอนท้ายอย่าง Leather, Tonka Bean และ Tobacco ใครได้กลิ่นก็ต้องหลงรักแน่นอน
2. กลิ่นโทน Woody : Creed Aventus
ถ้าพูดถึงน้ำหอมสำหรับผู้ชายกลิ่นโทน ‘Woody’ น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กันเสมอ เพราะเป็นกลิ่นที่น่าค้นหา เติมความสุขุมได้อย่างน่าประหลาดใจ หลักๆ แล้วกลิ่นนี้จะมาพร้อมการรวมตัวของกลิ่นจากแมกไม้ธรรมชาติ ช่วยเปิดตัวปิดจบคอมพลีตลุคที่ดี ยิ่งมาพร้อมการแต่งตัวแบบออลแบล็คยิ่งดึงดูด
ใครที่มองหาน้ำหอมในโทนนี้อยู่ก็บอกเลยว่าห้ามพลาด Creed Aventus เพราะเป็นเหมือนท็อปแรงค์ของน้ำหอมโทนนี้เลยก็ว่าได้ แต่จริงๆ แล้วก็แอบแฝงความสดชื่นแบบ Citrus พ่วงมาด้วยเบาๆ กลิ่นโดยรวมไม่หนัก มีกลิ่นของผลไม้เบาๆ แล้วตามมาด้วยกลิ่นไม้แบบเย็นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างกลิ่นหอมของไม้ Birch และ Patchouli ใครอยากได้มาดขรึมๆ แนะนำว่าห้ามพลาด
3. กลิ่นโทน Floral : Gucci Guilty Pour Homme Eau de Toilette
ใครว่าผู้ชายจะไปกับกลิ่นของดอกไม้ไม่ได้ ถ้าเจอกับน้ำหอมที่ผสมผสานได้ลงตัวกลิ่นโทน Floral ก็สามารถมาอยู่ในตัวผู้ชายได้อย่างลงตัว แถมยังช่วยดึงมุมอ่อนโยน ช่วยปรับฟีลให้สบายมากขึ้น เข้าถึงง่าย ใครที่มีแพลนไปเดทกลิ่นสไตล์นี้ช่วยสร้างความประทับใจได้ดีเลยทีเดียว
ถ้ามองหาน้ำหอมสำหรับผู้ชายในสไตล์ของความ Floral อยู่บอกเลยว่า Gucci Guilty Pour Homme Eau de Toilette เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะผสมกลิ่นของดอกไม้ ไม้ และสมุนไพรมารวมกันได้อย่างลงตัว เริ่มต้นมาด้วยความเผ็ดร้อนจากพริกไทยสีชมพูกับเลมอน แล้วพามากระจายกลิ่นแบบสะอาดจากดอกส้ม ละมุนกับลาเวนเดอร์ แล้วปิดท้ายให้กลิ่นติดตัวด้วยไม้ซีดาร์ที่รับรองเลยว่าอบอุ่น ผ่อนคลาย ประทับใจแน่นอน
4. กลิ่นโทน Spicy : Spicebomb by Viktor & Rolf
ใครที่ชอบกลิ่นแนวเครื่องเทศหรือสมุนไพรก็ต้องจัดกลิ่นโทน Spicy ไปใช้กัน เป็นกลิ่นที่ให้ฟีลของความแอคทีฟที่มักมาพร้อมกับความอบอุ่น แต่ไม่หวานเลี่ยน จึงเป็นอีกโทนที่เหมาะกับการเลือกมาเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย
สำหรับกลิ่นในโทน Spicy ที่ไม่ว่าใครใช้ก็ต้องติดใจต้องยกให้กับ Spicebomb by Viktor & Rolf ดีไซน์ขวดที่พร้อมจะระเบิดเสน่ห์ความหอมให้ติดตัวได้แบบยาวๆ กลิ่นนี้จะเริ่มต้นด้วยความสดชื่น แล้วค่อยๆ ให้กลิ่นของอบเชยกับพริกหวานมาทำให้เร่าร้อน คุมทางด้วยกลิ่นจากหญ้าฝรั่นที่ทำให้ความองศาความร้อนไม่แหลมจนเกินไป ปิดท้ายด้วยกลิ่นยาสูบ เท่และเย้ายวนสุดๆ ใครกำลังหาน้ำหอมไปปาร์ตี้หรือเที่ยวกลางคืนฉีดขวดนี้ไปรับรองว่าใครได้กลิ่นต้องเหลียวหลัง
5. กลิ่นโทน Citrus : Versace Pour Homme
อากาศบ้านเรากับน้ำหอมในโทน ‘Citrus’ น่าจะเข้ากันได้ดีที่สุด เพราะช่วยเติมความสดชื่น ทำให้อากาศที่ร้อนอบอ้าวปรับฟีลให้กลายเป็นความสดใสได้ ใครกำลังมองหาความกระปรี้กระเปร่า เอาไว้ใช้กับซัมเมอร์ต้องมีน้ำหอมสำหรับผู้ชายในโทนกลิ่นนี้ติดบ้านกันเอาไว้
สำหรับ Versace Pour Homme ตัวนี้แน่นอนว่ามาพร้อมความสดชื่นในแบบของความเป็น Citrus สไตล์อโรม่า ที่รวมเอาทั้งส้ม มะกรูด เลมอน ผสานให้กลายเป็นกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์ดึงดูด เบา สบาย สะอาด แล้วเติมความสดชื่นให้มีเอกลักษณ์มากขึ้นด้วยกลิ่นที่ให้สัมผัสของทะเลจาก Clary Sage, Cedar และ Geran |