ภูเขาไฟคือ ภูเขาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก มีหินหนืดอยู่ใต้เปลือกโลก ในอุณหภูมิสูงมาก จนเกิดแรงดันและการกระแทกแทรกตัวตามรอยแยกขึ้นสู่ผิวโลก โดยมีแรงปะทุหรือแรงระเบิดผลักดันหินหนืดที่ร้อนจัด ไอน้ำ เศษหิน ฝุ่นละออง และก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และ ก๊าซไนโตรเจน (N2) เป็นต้น พุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งหินหนืดที่พุ่งออกมานี้คือ “ลาวา” (LAVA) แต่หินหนืดที่ยังไม่ออกสู่พื้นผิวโลก เรียกว่า “แมกมา” (Magma)
เราสามารถเรียกภูเขาไฟภาษาอังกฤษว่า Volcano โดยภูเขาไฟจะมี 3 ลักษณะ ดังต่อไปนี้
-
ภูเขาไฟมีพลัง (Active Volcanoes) เป็นภูเขาไฟที่เพิ่งเกิดการปะทุหรืออาจปะทุในอนาคต
-
ภูเขาไฟสงบ (Dormant Volcanoes) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มีการปะทุ แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
-
ภูเขาไฟดับสนิท (Extinct Volcanoes) ภูเขาไฟที่จะไม่เกิดการปะทุขึ้นอีกเลย
และยังสามารถแบ่งตามรูปร่างลักษณะได้อีก 4 ประเภท ดังนี้
-
ภูเขาไฟแบบกรวยสูง (Steep cone)
-
ภูเขาไฟแบบโล่ (Shield Volcano)
-
ภูเขาไฟแบบกรวยกรวด (Ash and cinder cone)
-
ภูเขาไฟแบบสลับชั้น (Composite cone)
ภูเขาไฟที่ดับแล้วในไทยจะมีด้วยกัน 8 แห่ง โดยจะเป็นภูเขาไฟจ.บุรีรัมย์ 6 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ภูเขาไฟหินพนมรุ้ง ภูเขาไฟหินหลุบ ภูเขาไฟคอก ภูเขาไฟอังคาร ภูเขาไฟไปรบัด ภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ และอีก 2 แห่งคือ ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู และ ภูเขาไฟดอยผาดอกจำปาแดด
-
ภูเขาไฟหินพนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟหินบะซอลต์แบบกรวยลาวา มีลักษณะรูปร่างคล้ายชาม มีจุดที่สูงที่สุด 386 เมตร จากระดับน้ำทะเล และสูงจากที่ราบโดยรอบประมาณ 180 เมตร ความกว้างของปากปล่องของศูนย์กลางเนินภูเขาไฟ ราวๆ 300 เมตร และคาดว่าภูเขาไฟลูกนี้น่าจะดับมาแล้วกว่า 1.2 ล้านปี
-
ภูเขาไฟหินหลุบ อ.เฉลิมพระเกียรติ ภูเขาไฟจะมีร่องรอยปากปล่องรูปโค้งยาว จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธรณีวิทยา เรื่องภูเขาไฟในไทย ภูเขาไฟเขาคอก อ.ประโคนชัย แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ก็เป็นแหล่งกำเนิดห้วยเสว และไว้สำหรับเรียนรู้ด้านธรณีวิทยา
-
ภูเขาไฟอังคาร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ หรือภูพระอังคาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟพนมรุ้ง มีวัดเขาพระอังคารตั้งอยู่บนยอดเขา ศาสนสถานที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ
-
ภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานสมัยขอม พระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะของคนในท้องถิ่น
-
ภูเขาไฟไบรบัด จ.บุรีรัมย์ ส่วนใหญ่จะเป็นซากภูเขาไฟที่มีช่องปล่องปะทุชัดเจน ซึ่งเนินจะเกิดจากการทับถมของเศษหินภูเขาไฟ จากแรงดันของก๊าซต่างๆ อย่าง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ไฮออกไซด์ รวมไปถึงไอน้ำ และเศษหินต่างๆ ที่หลอมละลายแล้วถูกดันขึ้นไปปะทุ จนกระทั่งเย็นและแข็งตัวในอากาศ
-
ภูเขาไฟดอยผาคอกจำปาแดด จ.ลาปาง เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิท ไม่มีการระเบิดอีกแล้ว โดยได้รับการยืนยันจาก ดร.เปียร์ ซอเรนซน ผู้อำนวยการสถาบันสแกนดิเนเวีย ที่ได้ทำการศึกษาค้นคว้าร่องรอยก่อนประวัติศาสตร์ ภูเขาลูกนี้มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 630 เมตร ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ยืนต้นหลายชนิด และไม่สามารถเดินทางขึ้นไปได้ด้วยทางเดินรถ
-
ภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู จ.ลำปาง ถูกตั้งชื่อจากชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณแถบน้้น โดยความหมายภูเขาไฟลูกนี้จะสอดคล้องกับลักษณะของปล่อง เป็นชนิดภูเขาไฟชั้นหินลาวา หรือหินบะซอลต์ ที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ด้วยปากปล่องภูเขาไฟมีบริเวณกว้าง และถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ทั่วไป จนไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นภูเขาไฟมาก่อน
-
ภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู จ.ลำปาง ถูกตั้งชื่อจากชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณแถบน้้น โดยความหมายภูเขาไฟลูกนี้จะสอดคล้องกับลักษณะของปล่อง เป็นชนิดภูเขาไฟชั้นหินลาวา หรือหินบะซอลต์ ที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ด้วยปากปล่องภูเขาไฟมีบริเวณกว้าง และถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ทั่วไป จนไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นภูเขาไฟมาก่อน
|